ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 .doc

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
เรื่อง นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
__________________________
เพื่อให้การดําเนินการจัดการศึกษาและการบริหารจัดการการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติ วัตถุประสงค์ของแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา และนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะ นโยบายเร่งด่วน เรื่องการเตรียมคนสู่ศตวรรษที่ 21
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศนโยบายและจุดเน้น ของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ดังนี้
หลักการ
1. ให้ความสําคัญกับประเด็นคุณภาพและประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งผู้เรียน ครูและ บุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือน และผู้บริหารทุกระดับ ตลอดจนสถานศึกษาทุกระดับทุกประเภท และเป็นการศึกษาตลอดชีวิต
2. บูรณาการการทํางานร่วมกันระหว่างส่วนราชการหลัก องค์การมหาชนในกํากับ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้มีความคล่องตัว รวมทั้งหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ในพื้นที่ภูมิภาคให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้ เพื่อดําเนินการปฏิรูปการศึกษาร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ตามนโยบายประชารัฐ
ระดับก่อนอนุบาล
เน้นประสานงานกับส่วนราชการ และชุมชน ในการเตรียมความพร้อมผู้เรียน ในด้านสุขภาพและโภชนาการ และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับระบบโรงเรียนปกติ
ระดับอนุบาล
เน้นสร้างความร่วมมือกับพ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชน เพื่อออกแบบกิจกรรมการพัฒนา ทักษะที่สําคัญด้านต่างๆ เช่น ทักษะทางสมอง ทักษะความคิดความจํา ทักษะการควบคุมอารมณ์ ทักษะการรู้จักและประเมินตนเอง
ระดับประถมศึกษา
มุ่งคํานึงถึงพหุปัญญาของผู้เรียนรายบุคคลที่หลากหลายตามศักยภาพ ด้วยจุดเน้น ดังนี้
1. ปลูกฝังความมีระเบียบวินัย ทัศนคติที่ถูกต้อง โดยใช้กระบวนการลูกเสือ และยุวกาชาด
2. เรียนภาษาไทย เน้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้วิชาอื่น
3. เรียนภาษาอังกฤษและภาษาพื้นถิ่น (ภาษาแม่) เน้นเพื่อการสื่อสาร
4. เรียนรู้ด้วยวิธีการ Active Learning เพื่อพัฒนากระบวนการคิด การเรียนรู้ จากประสบการณ์จริงหรือจากสถานการณ์จําลองผ่านการลงมือปฏิบัติ และเปิดโลกทัศน์มุมมองร่วมกัน ของผู้เรียนและครูด้วยการจัดการเรียนการสอนในเชิงแสดงความคิดเห็นให้มากขึ้น
5. สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ และใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือการเรียนรู้
6. จัดการเรียนการสอนเพื่อฝึกทักษะการคิดแบบมีเหตุผลและเป็นขั้นตอน (Coding)
7. พัฒนาครูให้มีความชํานาญในการสอนภาษาอังกฤษ และภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding)
8. จัดให้มีโครงการ 1 ตําบล 1 โรงเรียนคุณภาพ โดยเน้นปรับสภาพแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอกบริเวณโรงเรียนให้เอื้อต่อการสร้างคุณธรรม จริยธรรม และจิตสาธารณะ
ระดับมัธยมศึกษา
มุ่งต่อยอดระดับประถมศึกษา ด้วยจุดเน้น ดังนี้
1. จัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ (STEM) และภาษาต่างประเทศ (ภาษาที่สาม)
2. จัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อสร้างทักษะพื้นฐานที่เชื่อมโยงสู่การสร้างอาชีพ และการมีงานทํา เช่น ทักษะด้านกีฬาที่สามารถพัฒนาไปสู่นักกีฬาอาชีพ ทักษะภาษาเพื่อเป็นมัคคุเทศก์
ระดับอาชีวศึกษา
มุ่งจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทําและสร้างนวัตกรรมตามความต้องการของพื้นที่ชุมชน ภูมิภาคหรือประเทศ รวมทั้งการเป็นผู้ประกอบการเอง ด้วยจุดเน้น ดังนี้
1. จัดการศึกษาในระบบทวิภาคี ให้ผู้เรียนมีทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
2. เรียนภาษาอังกฤษ เพื่อเพิ่มทักษะสําหรับใช้ในการประกอบอาชีพ
3. เรียนรู้การใช้ดิจิทัล เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสําหรับในการสร้างอาชีพ
4. จัดตั้งศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากําลังคนอาชีวศึกษาในภูมิภาค
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
มุ่งสร้างโอกาสให้ประชาชนผู้เรียนที่สําเร็จหลักสูตร สามารถมีงานทํา ด้วยจุดเน้น ดังนี้
1. เรียนรู้การใช้ดิจิทัล เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสําหรับหาช่องทางในการสร้างอาชีพ
2. จัดทําหลักสูตรพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมสําหรับผู้ที่เข้าสู่สังคมสูงวัย
การขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ
1. ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ต้องปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการ ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และวางแผนการใช้งบประมาณเป็นรายไตรมาส รวมทั้งใช้จ่าย งบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
2. จัดทําฐานข้อมูล (Big Data) ของกระทรวงศึกษาธิการ ให้ครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย
3. ใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการพัฒนางานทั้งระบบ เน้นการเรียนรู้และ การบริหารจัดการ
4. ปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการให้เกิดความคล่องตัว หากติดขัดในเรื่อง ข้อกฎหมาย ให้ผู้บริหารระดับสูงร่วมหาแนวทางการแก้ไขร่วมกัน
5. ให้หน่วยงานระดับกรมกําหนดแผนงานสนับสนุนทรัพยากร งบประมาณ อัตรากําลัง ตามความต้องการจําเป็น ให้แก่หน่วยงานในพื้นที่ภูมิภาค
6. ใช้กลไกกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา มาบูรณาการการดําเนินงานร่วมกับ หน่วยจัดการศึกษา
7. เร่งทบทวน (ร่าง) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …. โดยปรับปรุงสาระสําคัญ ให้เอื้อต่อการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล
8. ในระดับพื้นที่หากเกิดปัญหาข้อติดขัดการปฏิบัติงาน ต้องศึกษา ตรวจสอบข้อมูล / ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เช่น จํานวนเด็กในพื้นที่น้อยลง ซึ่งจําเป็นต้องมีการควบรวมโรงเรียน ให้พิจารณาสื่อสาร อธิบายทําความเข้าใจที่ชัดเจนกับชุมชน
9. วางแผนการใช้อัตรากําลังครู โดยเฉพาะครูระดับอนุบาล และครูระดับอาชีวศึกษา ให้มีประสิทธิภาพ และจัดทําแผนการประเมินครูอย่างเป็นระบบ รวมทั้งจัดทําหลักสูตรการพัฒนาครู ให้มีองค์ความรู้และทักษะในด้านพหุปัญญาของผู้เรียน
10. ให้ศึกษาธิการจังหวัดจัดทําแผนการจัดการศึกษาของแต่ละจังหวัด นําเสนอต่อ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด และขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
11. ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ และศึกษาธิการภาค มีบทบาทหน้าที่ ตรวจราชการ ติดตาม ประเมินผลในระดับนโยบาย และจัดทํารายงานเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ
อนึ่ง สําหรับภารกิจของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่ปฏิบัติงานตามปกติ (Function) งานในเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda) และงานในเชิงพื้นที่ (Area) ซึ่งได้ดําเนินการอยู่ก่อนนั้น หากรัฐบาลหรือ กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายสําคัญเพิ่มเติมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 นอกเหนือจากที่กําหนด หากมีความสอดคล้องกับหลักการในข้างต้น ให้ถือเป็นหน้าที่ของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องเร่งรัด กํากับ ติดตาม ตรวจสอบให้การดําเนินการเกิดผลสําเร็จและมีประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
รมว.ศธ.